วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ศิลปะระดับโลก








สวัสดีดรับช่วงนี้ก็ยังจะนำรูปภาพของศิลปะที่มีราคาแพงและส่วนใหญ่แล้วเป็นศิลปินที่ยังมีชีวิตและโด่งดังอยู่ที่อเมริกา เหตุผลหลักๆ เลยที่คนอเมริกันกล้าที่จะซื้อภาพเขียนราคาเป็นแสนเป็นล้านนี้นั้น จากการที่ได้ลองคุยกับหลายๆ คนที่ซื้อภาพวาดพวกนี้ไป เคยถามดูว่าทำไมคนส่วนใหญ่ถึงกล้าซื้อผลงานพวกนี้ในราคาที่สูงขนาดนี้ ทำไมเขาคลั่งไคล้ศิลปะกันขนาดนี้เลยเหรอ คำตอบที่ได้รับก็ทำให้ถึงกับต้องร้องอ๋อเลยทีเดียว มาฟังความคิดเห็นของคนอเมริกันนะครับ
"ที่กล้าซื้อภาพพวกนี้ก็เพราะว่าตอนนี้คนที่วาดภาพพวกนี้ก็กำลังมีชื่อเสียงและราคาก็ยังเอื้อมได้ ก็เลยตัดสินใจซื้อไว้เพื่อเป็นการลงทุน" ผมก็เลยถามต่อว่า เป็นการลงทุนแบบไหนหรือครับ เขาก็บอกว่า "ก็ตอนนี้ศิลปินที่เขียนภาพนี้ยังมีชีวิตอยู่ยังราคาขนาดนี้ ลองนึกดูซิว่า ถ้าเขาเสียชีวิตขึ้นมา ภาพวาดของเขาจะมีราคาสูงขึ้นถึง 10 เท่าหรือมากกว่านั้นเลยก็มี" อ๋อผมก็เลยเข้าใจแล้วว่าทำไมคนถึงแห่มาซื้อกันจังเลย เพราะว่าบางภาพผมยืนมองแล้วคิดว่าใครที่พอจะวาดรูปเป็นก็น่าจะวาดได้กันทั้งนั้น แต่ว่าหลังจากที่ได้ฟังคุณลุงคุณป้าบอกเหตุผลกับผมว่าทำไมถึงซื้อภาพราคาแพง ผมก็อดขำในใจไม่ได้ ทำไมหรือครับ ก็เพราะว่าบรรดาคนที่เขามากว้านซื้อรูปภาพพวกนี้ส่วนใหญ่ก็วัยลุงๆ ป้าๆ กันทั้งนั้น แต่ลองมาดูอายุของศิลปินที่เขาซื้อไปนะครับ
alexandra nakita เธอผู้นี้มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก[โลกของงานศิลปะ ไม่เกี่ยวกับเรา] ตอนอายุ 9 ขวบ เธอเป็นศิลปินที่วาดรูปแนว picasso ได้สวยงามมาก เขาว่ามาอย่างงั้น ก็ขนาดภาพของ picasso เองก็ยังดูไม่ค่อยจะรู้เรื่องเลย คนนี้ยิ่งไปกันใหญ่ครับ เธอเคยขายภาพได้ถึงราคาหลักล้านเหรียญ us. ครับ และเธอผู้นี้ผมคิดว่าอายุพึ่งจะ 20ต้นๆ แค่นั้น
michael godard เขาผู้นี้ก็พึ่งจะมีชื่อเสียงได้ไม่กี่ปีแต่ด้วยสไตล์การวาดภาพที่ไม่เหมือนใคร จับเอา martini /olive มาวิ่งไล่กันรอบแก้ว แค่นี้ก็ทำให้เขาได้เป็นศิลปินที่มียอดขายเยอะที่สุดในอเมริกาครับ ที่แน่ๆ หมอนี่อายุไม่น่าเกิน 40ต้นๆ
และก็หลายต่อหลายคนที่เป็นศิลปินดังๆของอเมริกาตอนนี้อายุยังไม่ผ่านเลข 4 เลข 5 กันเลย มันก็เลยทำให้ขำ ก็ตรงที่ว่าคนที่เก็งกำไรกับภาพวาดของเขาเหล่านี้ส่วนใหญ่อายุเกิน 50 ขึ้นไปทั้งนั้น บางคนเกิน 60อีกต่างหาก เฮ้อนี่แหละมนุษย์



สองภาพที่อยากจะพูดต่อก็คือไอ้เจ้า olive สีเขียวเริงร่านี่แหละครับที่ผู้คนอเมริกันพากันคลั่งไคล้กันอย่างมาก ราคานะเหรอครับไม่อยากจะพูดมันก็หลักแสนนี่แหละครับ เพราะมันไม่ใช่รุ่น limited ใครๆ ก็สามารถซื้อได้ ถ้ามีตัง แต่ถ้าเป็นรุ่น limited ของเขาก็เป็นล้านขึ้นครับ ผมเคยเจอ michael godard ครั้งนึงตอนนั้น เขามาสอนเทคนิคการวาดรูปของเขาโชว์ให้เห็นกันจะๆว่าเขาวาดอย่างไร เขาใช้เวลาประมาณชั่วโมงครับในการวาดภาพครั้งนี้ จริงๆอาจจะไม่ถึง แต่ว่าเขาต้องอธิบายและตอบคำถามคนแก่ขี้สงสัยไปด้วยเลยทำให้ใช้เวลาไปตั้งชั่วโมง และแล้วผลงานของเขาก็เสร็จ ภาพที่เขาวาดก็คือ รูปแก้วมาร์ตินี่ ที่มีเปลวไฟเป็นฉากหลัง และก็มี olive สีเขียวสดวิ่งเล่นอยู่รอบแก้วครับ นี่คือผลงานที่เขาสร้างขึ้นมาภายในเวลาตั้งชั่วโมง และก็ไม่รอช้าครับการประมูลภาพนี้ก็เกิดขึ้นทันทีครับ การประมูลเปิดตัวที่ 7000$ ครับ และคนที่ชนะการประมูลก็ปิดไปที่ 57,000$ เองครับ ลองคูณเป็นเงินไทย เอาเองก็แล้วกันนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น